Network Diagram (หรือถ้าชื่อเต็ม ๆ จะเรียกว่า "Project Schedule Network Diagram") เป็นแผนภาพที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรม (Activity) ต่าง ๆ ในโปรเจ็คของเรา
โดยทั่วไปแล้ว Network Diagram จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่ (1) ส่วน Node แสดงถึงกิจกรรมที่ต้องทำในโปรเจ็คของเรา และ (2) ส่วน Arrow หรือลูกศรที่จะใช้ลากเชื่อมระหว่าง Activity ต่าง ๆ เพื่อบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Activity ต่าง ๆ
ไม่ใช่ว่าทุกโปรเจ็คจำเป็นที่จะต้องมี Network Diagram ในโปรเจ็คง่าย ๆ ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมาก เช่น มีกิจกรรมแค่ 5-6 ตัว แต่ละกิจกรรมไม่ได้มีความเชื่อมโยงผูกพันธ์กันแบบซับซ้อน เราก็อาจใช้แค่ตัว Activity List ในการทำงานก็เพียงพอแล้ว (ดูรายละเอียดของ Activity List) แต่ถ้าโปรเจ็คของเรามีจำนวนกิจกรรมเยอะแบบหลายสิบตัว ทุกตัวมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันไปมา เราควรจะสร้าง Network Diagram ขึ้นมา เพราะว่า Activity List จะไม่สามารถนำเสนอความเชื่อมโยงดังกล่าวออกมาให้เราเห็นได้อย่างชัดเจน
ถ้าเราตัดสินใจแล้วว่าจะสร้าง Network Diagram ขึ้นมา เราจะสร้างมันขึ้นมาในช่วงการวางแผน (Planning) ซึ่งตัวตั้งต้นที่เราจะใช้ในการสร้าง Network Diagram ขึ้นมาก็คือเจ้า Activity List นั่นเอง
หลังจากนั้น Network Diagram จะถูกใช้อ้างอิงเป็นแผนงานโปรเจ็คไปตลอดช่วงการทำโปรเจ็คส่วนที่เหลือ ในระหว่างช่วงการลงมือทำ (Executing) เราและทีมงานจะกลับมาดูตัว Network Diagram ของเราว่ามีอะไรที่เราต้องทำตอนนี้บ้าง ทำโดยใคร มีกำหนดจะต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันไหน เป็นต้น ในช่วงการติดตามและควบคุม (Monitoring & Controlling) เราจะมาดูสถานะของแต่ละกิจกรรมใน Network Diagram กันว่าตัวไหนทำเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ตัวไหนที่ยังทำไม่เสร็จ ตัวไหนติดปัญหาอยู่ ซึ่ง Network Diagram จะทำให้เราเห็นชัดเจนว่างานส่วนที่ติดปัญหาจะส่งผลต่อกิจกรรมไหนบ้าง โดยไล่ดูได้จากลูกศรใน Network Diagram
การสร้าง Network Diagram นั้นมักจะเริ่มจากการที่เรามีพื้นที่ใหญ่ ๆ (จะเป็นโต๊ะ กระดาน หรือผนังก็ได้) แล้วเราก็เอา Sticky Note มาเขียนกิจกรรม (Activity) ต่าง ๆ ในโปรเจ็คขอเราลงไป หลังจากนั้นเราก็เอา Sticky Note ทั้งหมดไปแปะลงบนโต๊ะ กระดาน หรือผนังที่เรามี แล้วค่อย ๆ เรียงดูว่าอันไหนที่ต้องทำก่อน อันไหนต้องทำทีหลัง โดยไล่จากซ้ายไปขวา ตัวที่น่าจะเกิดขึ้นช่วงต้น ๆ เราจะวางไว้ทางซ้าย ส่วนตัวที่น่าจะเกิดขึ้นช่วงหลัง ๆ เราจะจัดไว้ทางขวา แล้วก็มาดูว่าแต่ละตัวมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง
พอเราเริ่มเห็นคร่าว ๆ แล้วว่าตัวไหนอยู่ฝั่งไหน เราก็เริ่มที่จะมาทำ Network Diagram กันใน Template ได้ ซึ่ง Network Diagram Template ของ KonneXXi จะเป็นไฟล์ MS Power Point ที่เราสามารถสร้าง Node ของกิจกรรมลงไปได้ แล้วใช้ลูกศรเชื่อมโยง Node ต่าง ๆ ตามความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่
1 เขียนรายละเอียดของแต่ละกิจกรรมลงใน Node: เริ่มต้นจาก Activity List และ Activity Attribute โดยการนำข้อมูลของกิจกรรมแต่ละตัวมาใส่รายละเอียดลงเป็น Node ใน Network Diagram ซึ่งจะประกอบด้วย หมายเลขอ้างอิง (Reference Number) ชื่อกิจกรรม (Activity Name) ผู้รับผิดชอบกิจกรรมนั้น (Responsible Person) ระยะเวลา (Duration: DUR) งบประมาณ (Budget: BUD)
2 เรียงลำดับของ Node จากซ้ายไปขวา เชื่อมโยงแต่ละ Node เข้าหากันด้วย Arrow: นำ Node หรือกิจกรรมที่เราต้องทำก่อนไว้ทางซ้ายแล้วค่อย ๆ ไล่ไปทางขวา เขียนลูกศร (Arrow) เพื่อบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมแต่ละตัว
ตำแหน่งที่ Arrow เชื่อมกับ Node จะบ่งบอกถึงจุดที่เราเชื่อมโยงว่าเป็น "จุดเริ่มต้น (Start)" หรือ "จุดสิ้นสุด (Finish)" ของกิจกรรมนั้น
3 (Optional) วาง Milestone ลงไปใน Network Diagram: ขั้นตอนนี้จะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าทำเราจะมี Milestone เป็นส่วนนึงในแผนงานของเราที่จะใช้สื่อสารกับทีมงานโปรเจ็คหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ได้ง่ายมากขึ้น เราสามารถเอา Milestone ไปวางไว้เพื่อระบุจุดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในโปรเจ็คของเราได้ เช่น จุดที่เราปรับปรุงร้านกาแฟเสร็จเรียบร้อย จุดที่เราจ้างพนักงานเสร็จเรียบร้อย เป็นต้น
เมื่อเราทำขั้นตอนที่ 1, 2 และ 3 เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ Network Diagram อย่างง่ายที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของกิจกรรมต่าง ๆ ในโปรเจ็คของเรา โดยแต่ละกิจกรรมจะมีข้อมูลสำคัญ ๆ ที่เราต้องใช้ในการบริหารจัดการโปรเจ็คได้ระดับนึง เช่น รู้ว่ากิจกรรมนั้นใครจะเป็นคนทำ ใช้เงินเท่าไหร่ ใช้เวลาเท่าไหร่ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เราสามารถสร้าง Network Diagram ที่มีความ Advance ไปมากกว่านี้ได้ โดยการทำสิ่งที่เรียกว่า "Forward Flow / Backward Flow Calculation" เพื่อวิเคราะห์สองกรณี คือกรณีที่เราเริ่มและทำงานให้เสร็จให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ (Early Start และ Early Finish) และกรณีที่เราเริ่มและทำงานให้เสร็จช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ (Late Start และ Late Finish)