Description

เกี่ยวกับ Building Block นี้...
  • จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีคนร้องขอการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในโปรเจ็คของเรา? ไม่ว่าจะเป็นคำร้องขอจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) เจ้าของโปรเจ็ค ผู้สนับสนุนโปรเจ็ค (Project Sponsor) หรือแม้ว่าจากทีมงานโปรเจ็คของเราเอง เช่น ต้องขยับเวลาการส่งมอบงานออกไป 2 เดือน ต้องเพิ่มงบประมาณสำหรับการก่อสร้าง เพราะว่างบประมาณที่ตั้งไว้ตอนต้นไม่เพียงพอ
  • เมื่อเกิดคำร้องขอการเปลี่ยนแปลงขึ้น (Change Requests) เราจะมาใช้กระบวนการที่อยู่ใน Building Block นี้กัน
  • สิ่งที่เราทำใน PM Process Building Block นี้คือการที่เราและผู้เกี่ยวข้องมาพิจารณา Change Requests ที่เกิดขึ้น แล้วตัดสินใจว่าเราจะรับการเปลี่ยนแปลงนี้หรือไม่ ถ้าเรารับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมาทำ เราจะต้องถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวลงไปยังงานส่วนต่าง ๆ ของโปรเจ็คให้ครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น เช่น ถ้าเราอนุมัติให้ส่งงานล่าช้าออกไป 2 เดือน เราก็จะต้องมาปรับแผนงานโปรเจ็คให้สอดคล้องกับการขยับการส่งมอบงานออกไป เป็นต้น

Inputs

สิ่งที่เราต้องใช้ในการทำ Building Block นี้...

Change Requests (คำร้องขอการเปลี่ยนแปลง)

Change Management Plan (แผนการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง)

Requirement Traceability (ตารางติดตามความต้องการ)

Outputs

สิ่งที่เราจะได้จาก Building Block นี้...

Approved / Rejected Change Requests (การตัดสินใจสำหรับคำร้องขอการเปลี่ยนแปลง)

  • ผลลัพธ์หลักที่เกิดขึ้นในกระบวนการนี้ก็คือ Change Requests ได้รับการอนุมัติหรือปฏิเสธ
  • บางครั้ง Project Manager อาจจะไม่ใช่คนที่สามารถตัดสินใจทุกอย่างได้เมื่อมีการร้องขอการเปลี่ยนแปลงเข้ามา โดยเฉพาะเมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นกระทบต่อ Baseline ของโปรเจ็คต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ กรอบเวลา และขอบเขตงานอย่างมีนัยสำคัญ ในกรณีนี้อาจจะมีการตั้งกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นร่วมกัน เช่น ต้องมี Project Sponsor หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ ๆ มาร่วมพิจารณาด้วย

Project Management Plan (แผนการบริหารจัดการโปรเจ็ค)

Tools & Techniques

เครื่องมือและเทคนิคที่เราใช้ใน Building Block นี้...

XXX

FAQ

คำถามที่เจอบ่อย ๆ ...

Q: เราข้าม PM Process Building Block นี้ไปได้ไหม?

A: ไม่ควรอย่างยิ่ง! การปรับแก้สิ่งต่าง ๆ ในโปรเจ็คโดยที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการควบคุมที่เป็นระบบเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะที่มักเกิดขึ้นในการบริหารจัดการโปรเจ็ค นี่คือสถานการณ์ที่เรียกว่า "Scope Creep" ซึ่งงานใหม่ ๆ ถูกเพิ่มเติมเข้ามาทีละน้อยแบบไร้การควบคุม จนสุดท้ายเราอาจไม่มีทรัพยากรในการทำโปรเจ็คให้จบได้

Q: เราต้องใช้กระบวนการนี้ในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในโปรเจ็คจริง ๆ เหรอ เพราะว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา?

A: ทุกกระบวนการที่กระทบกับ Baseline ทั้ง 3 ได้แก่ Scope Baseline (ขอบเขตโปรเจ็ค) Schedule Baseline (ตารางเวลา) และ Cost Baseline (ค่าใช้จ่าย งบประมาณ) จะต้องถูกควบคุมดูแลด้วย PM Buildng Block นี้

แต่การเปลี่ยนแปลงแบบยิบย่อยที่ไม่ได้มีผลกระทบกับ Baseline ทั้ง 3 เช่น ทีมงานคนนึงขอลาหยุดวันศุกร์ แต่จะรีบมาทำงานชดเชยให้วันจันทร์ ถ้าดู ๆ แล้วเรายังส่งงานได้ตามกำหนดอยู่ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องสร้าง Change Requests เข้ามาในกระบวนการนี้

พูดง่าย ๆ ก็คือการเปลี่ยนแปลงขนาดเล็ก ๆ ที่น่าจะบริหารจัดการได้โดยที่ไม่ไปกระทบกับ Baseline ก็ไม่จำเป็นต้องมาเข้ากระบวนการนี้ให้วุ่นวาย

แต่ถ้าการเปลี่ยนแปลงตัวไหนที่ดูแล้วก้ำกึ่ง อาจจะกระทบ Baseline หรือไม่ก็ได้ ในกรณีนี้อาจจะปลอดภัยกว่าถ้าเรานำมันเข้ามาใน Building Block นี้ ถึงจะมีความวุ่นวายหน่อย แต่ก็จะชัวร์กว่าปล่อยให้มันหลุดไปแล้วสร้างผลกระทบที่คาดไม่ถึงภายหลัง

Related Items

สิ่งที่เกี่ยวข้อง...
No items found.